ผ่านมารอบแล้วรอบเล่า การศึกษาของประเทศไทยเรานั้นโดนจัดอันดับอยู่ล่างๆมาโดยตลอด เรียกได้ว่าไม่เคยได้ติด top 20 ของโลกเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ประเทศเราก็ใช้งบประมาณไปกับการศึกษา เทียบหัวต่อหัวสูงกว่าประเทศที่ได้อันดับมากกว่าเราหลายประเทศเลยทีเดียว ถือว่าเรายังไม่สามารถจัดระบบการเรียนการสอนได้ดีและเหมาะสมกับความต้องการของเด็กจริง จนขนาดที่เด็กๆยังต้องออกมาเรียกร้องให้ปรับปรุงแล้วปรับปรุงอีกหลายรอบเลยที่เดียว แล้วประเทศที่คุณภาพการศึกษาที่ติดอันดับต้นๆมาโดยตลอดอย่าง ฟินแลนด์ หล่ะ เค้าทำกันยังไงนะ เดี๋ยวเราไปดูกันเลยดีกว่า
ก่อนอีกอยากจะขอเกริ่นว่า การจัดอันดับคะแนนนั้นสามารถจัดได้โดยใช้เกณฑ์ที่หลากหลายมาก แต่ว่าฟินแลนด์นั้นเป็นประเทศที่ติดอันดับในด้านความสุขในการเรียนและอัตราการเรียนจบสูงที่สุด และยังเป็นประเทศที่สามารถเห็นตามSocial mediaเมื่อถูกเอามาเปรียบเทียบด้านการศึกษากับประเทศต่างๆได้อย่างไม่ขาดสาย วันนี้ Class-dd จึงอยากมาสรุปข้อดีของการศึกษาในฟินแลนด์มาให้ได้อ่านกัน
10 ข้อ ทำไมของการศึกษาฟินแลนด์ถึงดีและทำให้เด็กมีความสุข
1. ไม่มีการสอบวัดผล ในประเทศไทยเรานั้นจะมีO-NETให้เด็กสอบเรื่อยๆเพื่อวัดระดับของโรงเรียนหรือข้อสอบGAT-PAT เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือในอเมริกาก็จะมีข้อสอบSAT GMATหรืออื่นๆอีกมากมาย แต่ฟินแลนด์เชื่อว่า การสอบที่มากเกินไปนั้น จะทำให้เด็กเรียนรู้และยัดความรู้ไปเพื่อวันสอบเท่านั้น ฟินแลนด์เลยจะมีการสอบแบบไม่บังคับแค่ครั้งเดียวเมื่อจบเทียบเท่ามัธยมปลาย และจะตรวจโดยอาจารย์ผู้สอนเองเพื่อติดตามผลการพัฒนามางการศึกษาเท่านั้น
2. ไม่โทษอาจารย์ ฟินแลนด์พบถ้าหากอาจารย์ที่เป็นแม่พิมพ์ของชาติแย่แล้ว คนในชาติที่เหลือจะทำอะไรต่อได้หล่ะ จึงได้ทำการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุโดยที่อาจารย์ทุกคนจะต้องเรียนจบปริญญาโทขั้นต่ำในวิชาที่จะสอน และจะมีการคัดเลือกอย่างถี่ถ้วนเสมอ จึงไม่จำเป็นต้องประเมินการสอนของอาจารย์แบบโหดๆ หรือด้วยผลการเรียนของเด็กๆ เพราะจะทำให้เกิดแต่ผลเสียตามมา
3. ร่วมมือไม่ใช่แข่งขัน ในประเทศอื่นๆ การศึกษาจะเน้นไปให้ทุกๆคนตั้งใจเรียนเพื่อสอบได้คะแนนที่ดีๆ แต่ในฟินแลนด์นั้น การร่วมมือและมีส่วนร่วมในการเรียนสอนของเด็กทุกๆคนคือตัววัดผลที่ทำให้เด็กมีความสุข และมันก็ถูกหล่อหลอมมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมฟินแลนด์มาอย่างช้านานทำให้ยากที่ประเทศอื่นจะลอกเลียนแบบ
4. ให้ทุกคนอย่าทั่วถึงและเท่าเทียม ไม่ใช่แค่ความรู้ในห้องที่เด็กๆจะได้ แต่รวมถึงสิทธิที่จะได้รับการศึกษาสำหรับทุกๆคน อาหารกลางวันฟรี ประกันสุขภาพ จิตแพทย์เด็ก และ ผู้ให้คำปรึกษาด้านการศึกษาส่วนตัว โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ฟินแลนด์ได้จัดหามาให้เด็กทุกๆคนมากว่า 40 ปีแล้ว
5. เริ่มเรียนตอนอายุมากกว่า เด็กจะเริ่มเรียนตอนอายุ 7 ปี และจะบังคับเรียนถึงแค่ระดับเทียบเท่ามัธยมต้นเท่านั้น โดยที่ก่อนหน้านั้นพวกเขานั้นจะได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กและมีพัฒนาการได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องมีกฏระเบียบของโรงเรียนมาควบคุม ลดความเสี่ยงที่จะมีเด็กที่มีความทรงจำแย่ๆเกี่ยวกับโรงเรียนลงได้ และสามารถเลือกเรียนสายอาชีพได้เหมือนบ้านเราเมื่อจบมัธยมต้นไปนั่นเอง
6. มีสายวิชาเฉพาะทาง หรือคล้ายๆปวช. ปวส. ของบ้านเรานั่นเอง ซึ่งมันเหมาะสมมากๆสำหรับเด็กที่ค้นพบตัวเองและอยากออกไปทำอะไรจริงๆจังที่เราชอบ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยอย่างน้อยๆก็อีก 7 ปี นับว่าเป็นเรื่องดีๆที่ประเทศเราก็มีเหมือนประเทศฟินแลนด์เหมือนกันนะ
7. เรียนสายเลิกไว มีการจัดระเบียบโรงเรียนที่ให้เด็กได้เรียนใกล้บ้านเพราะแต่ละโรงเรียนมีคุณภาพพอๆกันเนื่องจากคัดเลือกอาจารย์เข้าไปเหมือนๆกัน ทำให้วิชาแรกตอนเช้าจะเริ่มที่ 9:00 ถึง 9:45 และจะเลิกเรียนไม่เกินบ่ายสาม ทำให้เด็กไม่ต้องตื่นเช้ามากเมื่อเทียบกับบางประเทศที่มีคลาสตั้งแต่เจ็ดแปดโมงเช้า และยังมีเวลาว่างให้พักผ่อนตอนบ่ายและเย็นสำหรับเด็กๆอีกด้วย
8. อาจารย์และลูกศิษย์สนิทกัน ในระดับประถม1-6 เด็กๆจะได้เรียนกับอาจารย์คนเดิมเสมอ ทำให้อาจารย์และเด็กมีความรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อาจารย์จะเข้าใจว่าเด็กแต่ละคนเป็นอย่างไร มีพัฒนาการอย่างไร และจะได้สอนทำให้เด็กมีความสุขพร้อมกับได้ความรู้สูงสุด ลองคิดดูว่าหากเราใช้โปรแกรมอะไรครั้งแรกก็คงจะมีความงงๆใช่ไหมหล่ะ แต่หากเราใช้ๆมันไปทุกวันเป็นเวลา3-4ปี พร้อมกับเติบโตไปกับมัน เราจะเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้เลยทีเดียว
9. บรรยากาศที่ผ่อนคลาย ฟินแลนด์นั้นให้ความสำคัญกับบรรยากาศการเรียนและสุขภาพจิตของเด็กๆอย่างมาก โดยเด็กๆจะไม่ต้องเรียนอัดแน่นจนเกินไป มีเวลาพัก 15-20 นาทีเพื่อพักผ่อนทางของว่าเสมอ โรงเรียนมีนักเรียนที่ไม่แออัดมากเกินไปในแต่ละห้อง เราคงจะไม่ได้เห็นภาพเด็กนั่งเรียนเหงื่อแตกอยู่หลังห้องที่มีนักเรียนมากกว่า 50 คนแน่ๆ (ผู้เขียนเอง)
10. การบ้านน้อย งานนอกโรงเรียนเยอะ ฟินแลนด์ถือว่าเป็นประเทศที่มีการบ้านน้อยที่สุดในโลกจากการสำรวจ รวมถึงไม่ต้องมีโรงเรียนกวดวิชาหรืออาจารย์สอนพิเศษด้วย โดยการบ้านนั้นจะเป็นการทบทวนบทเรียนและเด็กหนึ่งคนจะใช้เวลาทำการบ้านไม่เกิน 30 นาทีต่อวันเท่านั้น เพราะฟินแลนด์นั้นอยากให้เด็กได้ออกไปทำงานนอกโรงเรียนมากกว่า ซึ่งก็คืองานใช้ชีวิตกับโลกภายนอกนั่นเอง
อ่านมาถึงจุดนี้แล้วเราคงเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมฟินแลนด์ถึงมีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและทำให้เด็กมีความสุขมากขนาดนี้ เป็นเพราะว่าการมองการณ์ไกล วางรากฐานมาตั้งแต่ยุค 80 และมุ่งเป้าไปที่ทำให้เด็กมีความสุขมากกว่าคะแนนสอบที่มากกว่าประเทศอื่นๆนั่นเอง สุดท้ายแล้วอยากขอขอบคุณทุกๆท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่าน อยากขอฝากเพจ Facebook : class-dd ให้ทุกคนได้ติดตาม เพื่อที่จะได้ไม่พลาดบทความเพื่อการศึกษาใหม่ๆที่เราจะมาอัพเดทให้อ่านกันทุกอาทิตย์ สำหรับอาทิตย์นี้ก็ขอขอบคุณมากครับ แล้วเจอกันใหม่ครับ