หลายคนคงมีความใฝ่ฝันว่าอยากไปเรียนต่างประเทศ หรือ สอบเข้ามหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ในประเทศไทยกันใช่ไหมครับ แต่รู้หรือไม่ว่าการจะเข้าเรียนในที่ที่กล่าวไว้ส่วนใหญ่นั้นต้องผ่านการสอบชนิดหนึ่งที่เรียกว่า SAT มาก่อน วันนี้ Class-dd ได้รวบรวมข้อมูลมาเพื่ออธิบายว่าข้อสอบ SAT คืออะไร และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอื่นๆมาให้ทุกคนได้อ่านและทำความเข้าใจกัน ถ้าพร้อมแล้วก็เลื่อนลงไปอ่านกันได้เลยครับ
SAT คืออะไร
SAT ย่อมาจาก Scholastic Aptitude Test หรือแปลเป็นได้ไทยว่า “ข้อสอบวัดความถนัดเกี่ยวกับการศึกษา” ถูกจัดขึ้นโดยองค์กรที่ชื่อว่า College board เป็นข้อสอบที่ใช้อย่างแพร่หลายในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในต่างประเทศและในหลักสูตรอินเตอร์ เพราะได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานกว่า 90 ปี โดยข้อสอบ SAT นั้นมีจุดมุ่งหมายในการเป็นข้อสอบศูนย์กลางในการวัดความพร้อมของเด็กมัธยมปลายเพื่อการเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบและตัดสินใจของมหาวิทยาลัย หรือกล่าวง่ายๆก็เป็นคล้าย GAT-PAT หรือข้อสอบเอนทรานซ์ของบ้านเราในสมัยก่อนนั่นเอง โดยมหาลัยจะพิจารณาการรับนักศึกษาจากคะแนนสอบ SAT รวมกับตัวเลือกอื่นๆเช่น ผลการเรียน จดหมายรับรอง portfolio โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคณะและมหาลัย (สมัครสอบ SAT เลย)
SAT และ SAT subject test คืออะไร
ข้อสอบ SAT นั้นคือข้อสอบความถนัดทั่วไปโดยแบ่งเป็น 2 พาร์ท คือความเข้าใจภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ คะแนนเต็ม 1,600
PART 1.Evidence-Based Reading & Writing เวลา 1 ชม. 40 นาที (คะแนนเต็ม 800) แบ่งข้อสอบออกเป็น 2 ชุด คือ
- Reading มี 52 ข้อ
- Writing and Language อ่านจากจาก 4 บทความ มี 44 ข้อ
PART 2.Mathematics เวลา 1 ชม. 20 นาที (คะแนนเต็ม 800) แบ่งข้อสอบเป็น 2 ชุด คือ
- Calculator มีทั้งแบบตัวเลือกและ ติมคำตอบ สามารถใช้เครื่องคิดเลขในการทำข้อสอบได้ มี 38 ข้อ
- No Calculator ตอบผิดไม่ติดลบแต่ห้ามใช้เครื่องคิดเลข มี 20 ข้อ เป็น Choice 16 ข้อ และเติมคำตอบ 4 ข้อ
PART 3.Essays สอบเขียเรียงความ สามารถเลือกสอบหรือไม่สอบก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละมหาลัย ใช้เวลา 50 นาที โดยมหาวิทยาลัยหลักสูตรอินเตอร์ในประเทศส่วนใหญ่จะไม่ต้องการคะแนนส่วนนี้ แต่หากจะเข้ามหาวิทยาลัยต่างประเทศอาจจะต้องใช้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมอ่านrequirementของแต่ละมหาลัยให้ดีก่อนนะครับ
ส่วนข้อสอบ SAT subject test หรือที่เรียกกันว่า SAT II นั้น คือการสอบเฉพาะทางวิชาที่จำเป็น ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละมหาลัย ให้เวลาวิชาละ 60 นาทีและคำถามจะเป็นแบบตัวเลือก สามารถเลือกสอบได้สูงสุด 3 วิชา เปิดสอบประมาณ 5-6 ครั้งต่อปี มีวิชาดังนี้
- Mathematics (ยากกว่าใน SAT ปกติ)
- Mathematics Level 1
- Mathematics Level 2
- Science
- Chemistry
- Physics
- Biology E/M
- History & Social Studies
- U.S. History
- World History
- English
- Literature
- Reading ONLY
- French
- German
- Modern Hebrew
- Spanish
- Italian
- Latin
- Reading & Listening
- French with Listening
- German with Listening
- Spanish with Listening
- Chinese with Listening
- Korean with Listening
- Japanese with Listening
SAT สอบเมื่อไหร่และควรสอบตอนไหน
ข้อสอบ SAT และ SAT subject test จะเปิดสอบปีละ 6 ครั้ง โดยบางครั้งจะสามารถสอบSATและSAT subject testได้พร้อมๆกัน แต่บางครั้งจะมีเพียง SAT หรือ SAT subject test ให้สอบเพียงอย่างเดียว (เช็คตารางสอบ SAT ในประเทศไทย) โดยคะแนนนั้นจะสามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี แปลว่าเราสามารถทดลองสอบได้ตั้งแต่ ม.5 และเก็บคะแนนเพื่อยื่นเข้ามหาลัยที่ต้องการได้ แต่การสอบทุกครั้งจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นอย่าลืมวางแผนกันดีๆก่อนสมัครสอบนะครับ การสอบจะจัดขึ้นตามโรงเรียนอินเตอร์ทั่วประเทศ เราสามารถเลือกโรงเรียนที่เราสะดวกได้เลย.
สำหรับน้องคนไหนที่กำลังหาที่ติวสอบ SAT อยู่ Class-dd อยากจะมาแนะ สถาบันติวสอบSAT ให้ทุกคนได้เลือก เพราะเรามีข้อมูลและรีวิวของสถาบันกวดวิชาชั้นนำทั่วประเทศ มาให้คุณประกอบการตัดสินใจกัน สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบ SAT แล้วเจอกันใหม่ครับ